.

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อาหารการกินของวัยรุ่น

อาหารการกินในวัยรุ่นวัยรุ่น  เป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตในด้านร่างกายอย่างมาก   และในวัยนี้เองที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ และจิตใจค่อนข้างสูง   มีกิจกรรมต่างๆ ค่อนข้างมาก ทั้งในด้านสังคม กีฬาและบันเทิง   ความต้องการสารอาหารย่อมมีมากขึ้นเป็นธรรมดา   ซึ่งจะต้องคำนึงทั้งปริมาณและคุณภาพให้ถูกหลักโภชนาการ
สำหรับปัจจัยที่  สำคัญ มีดังนี้

1. ครอบครัว   การปลูกฝังนิสัยการรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ   ควรเริ่มต้นมาจากที่บ้าน สำหรับวัยรุ่นที่อาจชอบรักสวยรักงาม   อาจพยายามจำกัดอาหารลง   ซึ่งคนในครอบครัวจะต้องให้คำแนะนำเพื่อไม่ไปจำกัดอาหารที่มีคุณค่าและมีความ  จำเป็นต่อร่างกาย

2. ตัว  วัยรุ่นเอง   วัยรุ่นจะเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยมีความคิดความเห็นเป็นของตัวเองมาก  ขึ้น การให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการ   มีความจำเป็นเพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของการรับประทานอาหาร   ที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีผลต่อตัววัยรุ่นเองโดยตรง

3. สิ่งแวดล้อม   ในโรงเรียนหรือสถานศึกษา   อิทธิพลจากเพื่อนฝูงมีส่วนที่ทำให้วัยรุ่นเอาอย่างกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ  รับประทานอาหาร ตลอดจนการบริโภคสารอันตราย เช่น เหล้า บุหรี่ และยาเสพติด   การดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการสนับสนุนให้วัยรุ่นเล่นกีฬา   หรือทำกิจกรรมที่มีประโยชน์   จะมีผลทางอ้อมทำให้นิสัยที่ดีในการบริโภคอาหารไม่ถูกเบี่ยงเบนไป
ความ  ต้องการอาหารที่ให้โปรตีนพลังงาน และวิตามินต้องเพียงพอสำหรับวัยรุ่น   วิตามินต้องเหมาะและโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีเกลือแร่ประเภท แคลเซี่ยม   และเหล็ก ต้องเพียงพอกับวัยรุ่นในวัยต่างๆ ซึ่งในรายละเอียดเรื่องของปริมาณ   ท่านควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม จากผู้รู้หรือนักโภชนาการต่อไป

[/size]การดูแลฟันวัยรุ่น[size=medium]

เมื่อ  ลูกอายุ 14 ปีขึ้นไป หรือลูกเริ่มเป็นวัยรุ่นหรือหนุ่มสาว   ในปากจะมีแต่ฟันแท้ซึ่งขึ้นเกือบครบ 32 ซี่ ยกเว้นฟันกรามสุดท้าย 4 ซี่   ที่จะขึ้นเมื่ออายุประมาณ 18 ปีขึ้นไป

[/color]วัยรุ่นเป็นวัยที่มีฟันผุมากที่  สุด
เพราะมักหักง่าย และชอบกินชอบขบเคี้ยว ขนมหวาน ลูกอมต่าง ๆ   จนเป็นนิสัยและแฟชั่น นอกจากนั้นมักจะมีปัญหาโรคเหงือกอักเสบที่เป็นกันมาก   เพราะไม่ค่อยรักษาความสะอาดปากและฟัน   ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ทำให้การอักเสบที่มีเล็กน้อย   ทวีความรุนแรงขึ้น พ่อแม่ ผู้ปกครองจึงมิอาจละเลยบุตรหลานที่เป็นวัยรุ่นได้   โดยจะต้องดูแลดังนี้1. กิน  อาหารที่เป็นประโยชน์และลดอาหารที่เป็นโทษต่อฟัน เช่น อาหารหวาน   ติดฟันง่าย เปรี้ยวจัด เปื่อยไปเหนียวไป หรือแข็งเกินไป 2. ฝึกกินอาหารให้เป็นเวลา   เพราะการกินอาหารระหว่างมื้อบ่อย ๆ โดยเฉพาะของหวานเหนียวติดฟัน   จะทำให้ฟันผุง่าย 3. ใช้  ฟันให้ถูกต้อง ไม่ควรใช้ฟันขบกัดของแข็ง อาทิ ปากกา ดินสอ ตะปู เข็ม   หรือเปิดจุกขวด เพราะจะทำให้ฟันแตกบิ่นเสียหาย หรือโยกคลอนได้ง่าย 4. รักษาความสะอาดช่องปากและฟันโดยแปรง  ฟันอย่างถูกต้อง
หัดตรวจฟันตนเองทุกวันหลังแปรงฟัน   และให้ทันตแพทย์ตรวจฟันอย่างน้อยปีละครั้ง เพราะถ้าพบสิ่ง
ผิดปกติจะได้รีบรักษาแก้ไขได้

[/size]การดูแลเด็กวัยรุ่น[size=medium][/b]
วัย  รุ่น เป็นวัยที่เชื่อมต่อระหว่างวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่   ถือเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตที่สำคัญ   เด็กวัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งทางร่างกาย   และจิตใจโดยได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมนเพศ ซึ่งโดยทั่วไปพบว่า   น้ำหนักและส่วนสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ววัยรุ่นหญิง

การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ   พบว่ามีความสำคัญมาก
เด็กวัยนี้จะ  มีความคิดค่อนข้างอิสระ ต้องการเป็นตัวของตัวเอง   พยายามสร้างเอกลักษณ์ของตนเอง   อยากให้เพื่อนยอมรับตนและต้องการเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อน   เริ่มมองบทบาทของตนเองที่แยกออกจากครอบครัวมากขึ้น
   เริ่มไม่ยอมรับความเห็นของพ่อแม่ ต้องการความเป็นส่วนตัว   ขณะเดียวกันอารมณ์จะยิงสับสน วู่วาม ขึ้นๆ ลง   ทำให้โอกาสที่จะขัดแย้งกับพ่อแม่มีมากขึ้น   บางครั้งรุนแรงจนถึงขั้นหนีออกจากบ้าน หันไปหายาเสพติด   หรือเกิดอาการซึมเศร้า

[/size]ปัญหาการเรียน[size=medium]

ปัญหา  เรื่องการเรียนในวัยรุ่น แม้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพทางกาย   แต่ก็เป็นหัวใจของการนำไปสู่ปัญหาต่อเนื่องมากมาย

ปัญหาการเรียนใน  วัยรุ่นเกิดขึ้น   เพราะในสภาวะปัจจุบันมีสิ่งแวดล้อมภายนอกมาเบี่ยงเบนความสนใจมากขึ้น หลายๆ   คนบอกว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อที่ต้องเรียนหนังสือ

แต่ถ้าท่านเป็นวัย  รุ่นที่กำลังอ่านอยู่ขณะนี้ ท่านคงต้องหยุดคิดพิจารณาให้ดีว่า   ท่านเรียนหนังสือเพื่ออะไร?

คำตอบก็คือ
ท่านเรียนหนังสือ เพื่อตัวเอง ท่านจะเรียนดี สอบได้คะแนนดี   เรียนต่อในชั้นสูงๆ ขึ้นไปได้เรื่อยๆ ก็เพื่อตัวเองทั้งสิ้น เพราะคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองท่านก็มีส่วน  ในการความภูมิใจ ดีใจที่บุตรหลานประสบความสำเร็จในการเล่าเรียน   แต่ความสำเร็จในการเรียนจะติดตัวท่านไป จนท่านเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ เครื่องมือในการสร้างฐานะของครอบครัวต่อ  ไปในอนาคต และในช่วงระยะเวลานี้เท่านั้น   ที่เป็นโอกาสเหมาะที่จะศึกษาเล่าเรียนให้เต็มที่   คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองของท่าน   คงไม่มีใครที่ไม่ต้องการสนับสนุนให้ท่านเรียนหนังสือ   ดังนั้นตัวท่านเท่านั้นที่ต้องมุมานะพยายามให้เต็มที่   มากเท่าที่ท่านจะสามารถกระทำได้การเรียนให้ประสบความสำเร็จ มีวิธีการมากมาย   แต่หัวใจที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวท่าน ตัวท่านต้องการเรียนให้ดีขึ้นหรือไม่   ตัวท่านเห็นความสำคัญของการศึกษาเล่าเรียนในขณะนี้หรือไม่   ถ้าคำตอบของท่านคือท่านต้องการ   ความสำเร็จในการปรับปรุงการเรียน จะมีมากกว่า 50% ไปแล้ว   ท่านจะต้องมานึกย้อนหลังดูว่า ท่านบกพร่องอะไรบ้างในอดีตที่ผ่านมา   ท่านเตรียมการเรียนหรือท่านทำการบ้านครบถ้วนหรือไม่   ทบทวนบทเรียนบ้างหรือเปล่า   ให้เวลากับการเที่ยวเตร่คบเพื่อนหรือกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนมากไป  หรือเปล่า ท่านต้องปรับปรุงสิ่งเหล่านี้ และที่สำคัญคือการทุ่มเทให้เวลากับการเรียนมากขึ้น   สมองของแต่ละบุคคลรับรู้และเข้าใจบทเรียนโดยใช้เวลาไม่เท่ากัน   ซึ่งจะเกิดขึ้นทั้งในคนเรียนเก่งและเรียนไม่เก่ง   บางคนอาจฟังครั้งเดียวแล้วเข้าใจ แต่บางคนต้องฟังหลาย ๆ ครั้ง ต้องจดโน๊ตย่อ หรือต้องทบทวนด้วยตนเองอีก   จึงจำได้และเข้าใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร   สำคัญอยู่ที่ว่าท่านต้องการเรียนให้ดีขึ้นหรือเปล่า   ความพยายามของท่านเท่านั้นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ[/size]
  [size=medium][/size]

ปัญหา  เรื่องการคบเพื่อน แม้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพทางกาย   แต่ก็เป็นหัวใจของการนำไปสู่ปัญหาต่อเนื่องมากมาย   รวมทั้งปัญหาทางร่างกายและจิตใจที่จะกล่าวถึงต่อไป

วัยรุ่นเป็นวัย  ที่เบิกบาน สนุกสนาน มีความคิดความเห็นของตนเองมากขึ้น   มีการพบปะเพื่อนฝูงต่างๆ ในโรงเรียนมากมาย ทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม   ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเสียหายอย่างไรที่จะมีเพื่อนเพศตรงข้าม   ถ้าอยู่ในกรอบแห่งการคบหาสมาคมเช่นเพื่อนสนิทที่มีความหวังดีต่อกันและกัน

คำแนะนำซึ่งเป็นกฏตายตัวหรือเป็นหลักการในการ  คบเพื่อนคงไม่มีชัดเจน แต่จะอยู่บนพื้นฐานของความพอดีหรือความสมดุล   ที่แต่ละคนแต่ละครอบครัวจะต้องปรับเข้ามาหากัน   ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ

[/color]1. ตัวของท่านต้องไม่เสียหาย
   หมายถึงเพื่อนนั้นต้องไม่นำสิ่งที่ไม่ดีมาสู่ท่าน ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด   สุรา บุหรี่ การเที่ยวเตร่ดึกดื่นที่มีผลต่อสุขภาพกายของท่าน   ตลอดจนการดื่มสุราหรือเบียร์เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุจากการจราจร   บางครั้งรุนแรงจนถึงกับการเสียชีวิตก็มีขึ้นได้บ่อยๆ   การชักจูงที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม   ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ท่านติดโรคร้ายเอดส์ได้ 2. การเรียนต้องไม่เสียหาย หมายถึง   การคบเพื่อนนั้นต้องไม่ขโมยเวลา   หรือนำเอาความสนใจออกไปจากการศึกษาเล่าเรียน   ที่เป็นเป้าหมายหลักและมีความสำคัญอย่างยิ่งในวัยของท่าน   ในทางตรงข้ามการคบเพื่อนที่ดีน่าจะชักจูงกัน หรือส่งเสริมให้กันและกัน   เพื่อการศึกษาเล่าเรียนได้ดียิ่งขึ้น 3. คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองต้องไม่ทุกข์ทรมานกับการคบเพื่อน   หมายถึงการกระทำใดๆที่เกิดจากการคบเพื่อน ท่านต้องพินิจพิจารณาให้เหมาะสม   ท่านต้องไม่เปรียบเทียบกับครอบครัวของคนอื่นๆ   ความเห็นต่างๆของพ่อแม่ผู้ปกครองของท่าน และของเพื่อนๆท่าน   จะเหมือนกันคงเป็นไปไม่ได้ ทำไมเพื่อนถึงไปได้ กลับดึกได้   ไปค้างคืนกับเพื่อนได้ แต่ท่านไม่สามารถทำได้   แต่ละครอบครัวจะมีความแตกต่างกัน ตัวท่านเองนั่นแหละ   ที่จะต้องเข้าใจความไม่เหมือนกันตรงนี้ของแต่ละครอบครัว   แล้วท่านจะไม่นำความทุกข์ใจมาสู่พ่อแม่หรือผู้ปกครองของท่านอย่างแน่นอน[/size]
  [size=medium]
[/size]ข้อควรทราบเกี่ยวกับวัยรุ่น[size=medium]

วัย  รุ่นหรือวัยทีนเอจตามภาษาฝรั่ง เป็นวัยที่อยู่ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่   ซึ่งโดยทั่วไปถือกันจากเริ่มแตกเนื้อหนุ่มแตกเนื้อสาว เริ่มเข้าวัยเจริญ  พันธุ์ แม้ว่ายังมีความเห็นที่แตกต่างกันว่าเมื่อใด ที่เริ่มเป็นวัยรุ่น   และเมื่อใดที่เลิกเป็นวัยรุ่นก็ตาม

แต่จุดที่เริ่มมีการเปลี่ยน  แปลงจากเด็กมาสู่วัยรุ่น มีผลมาจากมีการเปลี่ยนแปลงในระดับของฮอร์โมน   ในผู้หญิงจะเริ่มต้นเมื่ออายุ 10-11 ขวบ   ในผู้ชายจะช้ากว่านิดหน่อยคือเมื่ออายุ 12-13 ขวบ และจะสิ้นสุดเมื่ออายุราว   17-18 ปี ทั้งสองเพศ
ในระหว่าง  ช่วงวัยรุ่นนี่เอง ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์   ซึ่งถือเป็นวัยที่ปฏิบัติตนด้วยความยากลำบากมากวัยรุ่นจึงถือเป็นวัยที่สำคัญเป็นอย่าง  ยิ่ง ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม   ถ้าเป็นตัววัยรุ่นเองก็มองว่าเป็นวัยที่สนุกสนาน มีเพื่อนฝูงมากมาย   เป็นวัยที่ไม่ค่อยคิดถึงความทุกข์ความร้อนมากเท่าใดนัก   ถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่ก็มองว่าเป็นวัยที่หัวเลี้ยวหัวต่อ   เป็นวัยที่ต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะเกรงว่าจะเกิดความเสียหาย   มองว่าเป็นวัยที่ต้องมานะศึกษาเล่าเรียน   ไม่อยากให้สนุกสนานร่าเริงจนเกินขอบเขต เพราะคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเสียใจ   เนื่องจากมีวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียอนาคตไปในช่วงนี้   ถ้าเป็นพวกพ่อค้าขายเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งหลาย ตลอดจนวงการบันเทิงทั้งหลาย   ก็มองว่าวัยรุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะทำเงินให้ธุรกิจของเขา   นอกจากนี้ในปัจจุบันเมื่อถึงวัย 18 ปี   ยังบรรลุนิติภาวะพอที่จะไปเลือกตั้งได้อีกด้วย



ปัญหาที่  เกิดในวัยรุ่นมีทั้งเรื่องที่เป็นสุขภาพทางกาย และปัญหาทางสุขภาพจิต   บางครั้งสุขภาพทางกายทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต   และปัญหาสุขภาพจิตก็มีผลทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพกายได้เหมือนกัน ฉะนั้น
ความใกล้ชิดของผู้ปกครองหรือบิดา  มารดากับวัยรุ่น   เพื่อเป็นที่ปรึกษาในทุกกรณีจะมีส่วนป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรงได้   โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องบุหรี่ ยาเสพติด และเหล้า   ซึ่งส่วนใหญ่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทในวัยนี้นี่เอง[/size]
การคบเพื่อน[/size][size=medium]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น